African-Gray

นกอัฟริกันเกรย์ นกแก้วสายพันธุ์แอฟริกา

นกอัฟริกันเกรย์ หรือนกแก้วสีเท่า (Grey parrot) หรือยังมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่านกแก้วคองโก ถือเป็นนกแก้วที่มีสายพันธ์เก่าแก่ที่สุดของโลกในตระกูล Psittacidae เหมือนกันนกแก้ว Timneh ที่แต่ก่อนเคยถูกรวบว่าอยู่ในสายพันธ์เดียวกัน แต่ก็พบว่ามันมีสายพันธุ์เต็มรูปแบบของตัวเอง เจ้าตัวนกแก้วสีเทานั้น มีขนาดตัวที่ใหญ่พอสมควร ส่วนใหญ่พวกมันจะมีสีเทา น้ำหนักเฉลี่ยของพวกเขาคือ 400 กรัม (0.88 ปอนด์) โดยมีความยาวเฉลี่ย 33 เซนติเมตร (13 นิ้ว) และปีกมีความยาวเฉลี่ย 46-52 เซนติเมตร (18-20 นิ้ว) โดยสีส่วนของหัวและที่ปีกจะมีความเข้มเป็นพิเศษกว่าส่วนอื่น ๆ มีหางสีแดง ขึ้นอยู่กับการผสมพันธ์ ในบางตัวจากจะมีสีแดงตามส่วนอื่น ๆ นอกจากหาง

ทั้งเพศผู้และเพศเมียมีลักษณะทางกายภาพที่คล้ายคลึงกัน สีของพวกมันตั้งแต่เด็กจนโตเต็มวัยมักจะแยกกันไม่ค่อยออก แต่ตาของพวกมันจะมีสีเทาเข้ม จนถึงสีดำ แต่สำหรับพวกที่โตตัววัยจะมีม่านตาสีเหลืองเล็กน้อย เมื่อมันโตเต็มวัยจะมีน้ำหนัก 418-526 กรัม (0.922-1.160 ปอนด์) โดยมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 40 – 60 ปีโดยประมาณ ถือว่าเป็นสัตว์ที่มีอายุยืนมากเลยทีเดียว แต่จากการสำรวจพบว่าพวกมันมีอายุไขลดลงถึง 23 ปี จากนกแก้วที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ

African-Gray-

นกแก้วสีเทามีถิ่นกำเนิดในแอฟริกาแถบเส้นศูนย์สูตร ได้แก่ แองโกลา แคเมอรูน คองโก ไอวอรี่โคสต์ กานา เคนยา และยูกันดา สายพันธุ์แท้จะพบได้จากเคนยาในแถบตะวันออกของไอวอรี่โคสต์ ประมาณการปัจจุบันสำหรับประชากรนกนั้นยังไม่เป็นที่แน่นอน อาจจะมีนกอยู่ 0.63 ถึง 13 ล้านตัว และปัจจุบันตัวเลขประชากรยังลดลงอย่างรวดเร็วทั่วโลก แต่พวกมันยังสามารถพบได้ที่ขอบป่าที่เปิดกว้างแถบทุ่งหญ้าสะวันนาการศึกษาเกี่ยวกับประชากรนกที่ลดลงนั้นถูกตีพิมพ์ในปี พ. ศ. 2558 พบว่าสายพันธุ์ดังกล่าวเกือบจะสูญพันธ์แล้วในกานาโดยมีตัวเลขลดลง 90-99% ตั้งแต่ปี 2535 พบว่ามีเพียง 10 แห่งในพื้นที่ป่า 42 แห่ง ประกอบด้วยสามแหล่งอาศัยที่เคยเป็นที่อยู่ของนกกว่า 700 – 1200 ตัว ปัจจุบันเหลือชนิดละ 18 ตัวเท่านั้น

คนในท้องถิ่นส่วนใหญ่ตำหนิว่าเป็นผลจากการการค้าสัตว์เลี้ยงและการตัดไม้ทำลายป่า ทำให้ที่อยู่ของพวกมันพังทลาย โดยปกติคองโกคิดเป็นประมาณ 15,000 ตัวต่อปี สำหรับการส่งไปให้ร้านขายสัตว์เลี้ยงในภาคตะวันออกของประเทศ นกแก้วสีเทาบางส่วนก็มีการหลบหนีหรือได้รับการปล่อยตัวโดยเจตนาออกสู่ฟลอริดาสหรัฐอเมริกา แต่ไม่มีหลักฐานว่าพวกมันเป็นสายพันธ์ดั้งเดิมหรือไม่